Style_TH

บ้านดำ … อัตลักษณ์แห่งสีที่สะท้อนจิตวิญญาณของงานศิลปะ “สีดำ” ใครนิยามว่าเป็นตัวแทนของความไม่ดี…

“หอยนางรมสดจริงต้องที่นี่ … Whitstable” แน่นอนว่าการเดินทางมาอังกฤษหลายคนก็มักจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญเพื่อถ่ายรูปแต่มีอีกที่หนึ่งที่อยากแนะนำให้ต้องลองไปกันเพราะเสียงร่ำลือเรื่องความสดของหอยนางรมนั้นทำให้ขาสองข้างของเราเรียกร้องที่จะต้องเดินตามหาเมืองนี้ให้ได้เลยทีเดียว และคำเรียกร้องของเราก็พาเรามายืนอยู่ตรงบริเวณท่าเทียบเรือประมงขนาดเล็กของเมืองวิสต์เทเบิล (Whitstable)ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆในชนบทของแคว้นเคนต์ประเทศอังกฤษตอนใต้ ที่นี่จะละลานตาไปด้วยเรือประมงที่ชาวบ้านแถวนี้ยึดถือกันเป็นอาชีพทำมาหากินซึ่งนอกจากความสวยงามของเมืองที่เราตื่นเต้นแล้วแน่นอนว่าวันนี้เราจะทานหอยนางรมสดๆให้ได้ “หอยนางรมมาแล้ว” ….. เราเดินไปยังร้านเล็กๆตรงท่าน้ำที่เรือมาจอด  ซึ่งทางร้านจะเอาหอยนางรมสดๆจากเรือมาแกะให้ทานกันตัวเป็นๆ  ซึ่งที่นี่ขายเป็นตัว ราคาก็ไม่แพงอย่างที่คิดอยู่ที่ราว ตัวละ 0.80 ปอนด์ หรือราว 33 บาท (เรตราคา 1 ปอนด์เท่ากับ 40 บาท) แต่สิ่งที่ฟินมากนอกจากความอร่อยแล้ว นั่นคือ บรรยากาศและอุณหภูมิขณะเราทานหอย  ตอนนั้นอากาศเย็นมากพร้อมกับพ่อค้าแกะหอยนางรมแช่เย็นให้เราทานแบบสดๆ  ใส่ซอส Tabasco และบีบเลมอนลงไป กินทั้งตัวคำใหญ่ๆกันไปเลย สดชื่นแน่นอน หากใครได้ลองมาเมือง Whitstable แห่งนี้ ก็อย่าลืมมาทานหอยนางรมสดๆกันได้ที่นี่นะ  หรือถ้าใครวางแผนล่วงหน้าสำหรับการมาเที่ยวอังกฤษ ก็แนะนำช่วงเดือนมิถุนายน หรือ กรกฎาคมเลย  เพราะที่เมืองนี้จะจัดเทศกาลกินหอยนางรม หรือ Whitstable Oyster Festival ทุกปี  เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชาวเมืองและนักท่องเที่ยวได้เข้ามาจับจ่ายสินค้าหลักของเมืองนี้และส่งเสริมเศรษฐกิจไปในตัว   รับรองว่าได้กินหอยนางรมสดๆ พร้อมรับลมเย็นๆ อากาสดีๆ ความทรงจำแบบนี้จำไม่ลืมแน่นอน แต่หากใครไม่อยากยืนทาน เราก็มีร้าน […]

#CoffeemakesmeLAFF : ) “กาแฟทำให้ฉันหัวเราะ” นี่เป็นแฮชแท็กที่ต้องยอมรับว่าเรียกความสนใจจากเราไม่น้อยกาแฟที่ไหนทำให้คนหัวเราะ! นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากเดินทางไปเยี่ยมเยือนเพื่อนบ้านคนนี้LAFF Café’ มีชื่อร้านที่พ้องเสียงกับคำภาษาอังกฤษว่า “Laugh” ที่แปลว่า “หัวเราะ”ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 50 บรรยากาศหน้าร้านมีกลิ่นอายของความเป็นบ้านสไตล์อังกฤษเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ และเมื่อเข้าไปร้านเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างถูกจัดวางแบบไม่ซ้ำแบบกันแต่ละมุมก็มีสไตล์ของตัวเองสัมผัสครั้งแรกของที่นี่คือความสุข แต่อะไรกันที่ทำให้หัวเราะได้นะ… และเมื่อเราเริ่มคุยกับเจ้าของร้าน เราก็เข้าใจทุกอย่างทันที ว่าที่ทำให้หัวเราะไม่ใช่กาแฟ  แต่คือคนทำกาแฟที่มีความสุขแล้วส่งต่อมายังคนดื่มต่างหาก เพราะครอบครัวเจ้าของร้านต้องยอมรับว่ามีพลังงานบวกสูงมาก เริ่มจากป่ะป๊าที่ชอบดื่มกาแฟอยู่แล้ว หม่าม๊าที่ชอบแต่งบ้านจึงอยากแต่งทุกส่วนของร้านนี้ด้วยตัวเอง และลูกชายที่อยากจะมีร้านกาแฟใกล้ๆบ้าน เมื่อความต้องการและความชอบรวมตัวกัน จึงเกิดเป็น LAFF ขึ้นมา เดิมทีพื้นที่ตรงนี้เป็นห้องเสื้อเก่า แต่ได้ขยายพื้นที่มาเป็นร้านกาแฟที่มีไอเดียมาจากโรงนาเรือนกระจกแบบอังกฤษ รู้สึกเงียบสงบและเป็นส่วนตัว  แม้ถนนด้านนอกจะวุ่นวายขนาดไหน แต่พอเข้ามานั่งในร้านกลับรู้สึกเงียบมาก เหมือนได้พักผ่อนจริงๆ ออกจากที่มาของร้านแล้ว เรายังเจาะลึกไปที่เรื่องของกาแฟสูตรเฉพาะของทางร้าน ที่เรียกว่า “LAFF BLEND”  ซึ่งเป็นเมนูเครื่องดื่มร้อนที่ใช้มล็ดกาแฟที่ปรับมาจากต้นตำรับแบบ Aussie Style ทำให้รสชาติเข้มข้นกลมกล่อม  ไม่หวานหรือเปรี้ยวจนเกินไป และที่สำคัญยังให้ความสำคัญกับ After taste  หรือผลกระทบจากรสชาติหลังชิมกาแฟที่อาจติดที่ปลายลิ้นหรือในคอ  ดังนั้นกาแฟของที่นี่จึงเหมาะกับทุกคนแม้กับผู้ที่เริ่มดื่มกาแฟก็ตาม และนอกจากกาแฟ LAFF BLEND ที่เป็นซิกเนเจอร์แล้ว เรายังได้ลองชิมขนมของทางร้านที่ทำเองถึง 3 อย่าง  […]

“ABRACRADABRA” ทำไมชื่อ อ่านยากจัง?? นี่คือ ความคิดแรกเมื่อเราเห็นชื่อนี้ แต่ถ้า มองให้ดีแล้วแยกตัวอักษรออกเป็นคาถาให้เราร้องอ๋อ! ทันทีAB – RA – CADAB – RA (อะบราคาดาบรา)คำขึ้นต้นเมื่อจะร่ายมนตร์หรือเสกอะไรสักอย่าง แล้วทำไมชื่อนี้จึงกลายมาชื่อร้านกาแฟได้ “เราอยากให้หลายๆมาพบเจอเราได้ง่ายขึ้น อีกทั้งความหมายค่อนข้างดีเลย เหมือนเป็นคาภาวนาให้เราสำเร็จ” นี่คือคำตอบของพี่นิกกี้ ผู้เป็นเจ้าของร้าน ซึ่งฟัง ดูเข้าใจง่าย ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งพิเศษ แต่กลับแฝงไปด้วยความรู้สึก อบอุ่นเรียบง่าย และสัมผัสได้ถึง คุณค่าของความพยายามในการทำร้านกาแฟแห่งนี้ขึ้นมาจริงๆ อะไรคือจุดเริ่มต้นของร้าน ABRACRADABRA พี่นิกกี้เล่าให้เราฟังว่า เขาสร้างร้านกาแฟแห่งนี้ขึ้นมา ให้เป็นเสมือนบ้านหลังเล็กๆของเขาและภรรยาชาวญี่ปุ่น  ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาของเขา เคยเปิดร้านทาเล็บอยูย่านธุรกิจอย่างเอกมัย แต่ด้วยพื้นที่เล็กมาก ทำให้เขารู้สึกว่าคนมาทาเล็บที่ ต้องการพักผ่อนจริงๆนั้น ไม่ได้สัมผัสความสบายอย่างคาเฟ่ด้วย เขาจึงสร้างร้านคาเฟ่เป็นของตนเอง  ที่มีบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น และมีมุมทาเล็บทีประณีตบรรจงในอีกมุมหนึ่งของร้าน   วิธีการชงทำอย่างไร? “เราชงด้วยวิธีการดั้งเดิมในสไตล์ญี่ปุ่นนั่น คือ ชงด้วยมือ”  พี่นิกกี้ตอบคาถามพร้อมชงให้เราดูไปพร้อมกัน  นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถัน กว่าที่จะได้มาแต่ละแก้ว ซึ่งจะไม่ได้ใช้เครื่องชงกาแฟเหมือนร้านทั่วไป  และก็ยังคงสไตล์การชงด้วยมือแบบนี้อยู่เรื่อยมา และนอกจากความประณีตของการชงกาแฟแล้ว พี่นิกกี้ยังเต็มไปด้วยความใส่ใจลูกค้าที่เราเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน อย่างเช่นน้ำแข็งของร้าน […]

มหาวิหารแคนเทอร์บิวรี มรดกแห่งความงามชิ้นสำคัญของอังกฤษความงดงามบางอย่างธรรมชาติอาจเป็นผู้สร้างสรรค์ แต่วันนี้เราจะพาไปดูความงดงามที่มนุษย์เราเป็นผู้สร้าง แต่กลับสวยงามยั่งยืนมานานกว่า 1400 ปี กับที่นี่ “มหาวิหารแคนเทอร์บิวรี” (Canterbury Cathedral) สถานที่สำคัญอันเป็นมรดกโลก ณ เมืองแคนเทอร์บิวรี ในประเทศอังกฤษ เมืองแคนเทอร์บิวรี ถือเป็นเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้านศาสนาของอังกฤษเลยก็ว่าได้ เพราะได้รับการยกย่องจากยูเนสโกว่าเป็นเมืองแห่งผู้จาริกแสวงบุญ ดังนั้นหากใครมาเมืองนี้ไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมที่นี่ถึงเต็มไปด้วยโบสถ์ หรือวิหารที่บ่งบอกความเป็นคริสเตียนอย่างมากมาย หนึ่งสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์ถ่ายทอดความเชื่อเรื่องนี้อย่างชัดเจน ก็คือ “มหาวิหารแคนเทอร์บิวรี” สิ่งก่อสร้างสำคัญที่เมื่อเข้าไปสัมผัส ความรู้สึกแรกคือหรูหรา อลังการ แต่เมื่อเข้าไปด้านในความรู้สึกของเรากลับถูกดึงให้สงบนิ่งและ อิ่มเอมไปกับงานสถาปัตยกรรมแห่งศาสนาชิ้นนี้ ที่นี่คือโบสถ์ประจำตำแหน่งของประมุขสูงสุดของนิกายแองกลิคันทั้งหมด และเป็นที่ตั้งเป็นที่ตั้งบัลลังก์นักบุญออกัสติน ผู้ก่อตั้งมหาวิหารแห่งนี้ เมื่อปี ค.ศ. 597 สมัยถูกส่งมาเผยแผ่ศาสนา รูปลักษณ์ภายนอกของมหาวิหารแห่งนี้มีลักษณะเป็นแบบ Romanesque (โรมาเนสก์) ผสมผสานกับ Gothic (โกธิก) เหตุที่เป็น 2 รูปแบบเช่นนี้ก็เพราะช่วงเวลาที่ใช้ ในการก่อสร้างยาวนานจนเกิดรอยต่อ และมีความทับซ้อนของยุคศิลปะ คือเริ่มสร้างตั้งแต่ช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 10 ถึง 12 แต่ไม่เสร็จ จึงต้องต่อเนื่อง ในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12-16 ซึ่งเป็นยุคโกธิกและเป็นช่วงที่ศาสนาเฟื่องฟูมาก […]