“ABRACRADABRA” ทำไมชื่อ อ่านยากจัง??
นี่คือ ความคิดแรกเมื่อเราเห็นชื่อนี้
แต่ถ้า มองให้ดีแล้วแยกตัวอักษรออกเป็นคาถาให้เราร้องอ๋อ! ทันที
AB – RA – CADAB – RA (อะบราคาดาบรา)
คำขึ้นต้นเมื่อจะร่ายมนตร์หรือเสกอะไรสักอย่าง
แล้วทำไมชื่อนี้จึงกลายมาชื่อร้านกาแฟได้
“เราอยากให้หลายๆมาพบเจอเราได้ง่ายขึ้น อีกทั้งความหมายค่อนข้างดีเลย
เหมือนเป็นคาภาวนาให้เราสำเร็จ” นี่คือคำตอบของพี่นิกกี้ ผู้เป็นเจ้าของร้าน
ซึ่งฟัง ดูเข้าใจง่าย ไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งพิเศษ แต่กลับแฝงไปด้วยความรู้สึก อบอุ่น
เรียบง่าย และสัมผัสได้ถึง คุณค่าของความพยายามในการทำร้านกาแฟแห่งนี้ขึ้นมาจริงๆ
อะไรคือจุดเริ่มต้นของร้าน ABRACRADABRA
พี่นิกกี้เล่าให้เราฟังว่า เขาสร้างร้านกาแฟแห่งนี้ขึ้นมา ให้เป็นเสมือนบ้านหลังเล็กๆของเขาและภรรยาชาวญี่ปุ่น
ซึ่งก่อนหน้านี้ภรรยาของเขา เคยเปิดร้านทาเล็บอยูย่านธุรกิจอย่างเอกมัย แต่ด้วยพื้นที่เล็กมาก ทำให้เขารู้สึกว่าคนมาทาเล็บที่
ต้องการพักผ่อนจริงๆนั้น ไม่ได้สัมผัสความสบายอย่างคาเฟ่ด้วย เขาจึงสร้างร้านคาเฟ่เป็นของตนเอง
ที่มีบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่น และมีมุมทาเล็บทีประณีตบรรจงในอีกมุมหนึ่งของร้าน
วิธีการชงทำอย่างไร?
“เราชงด้วยวิธีการดั้งเดิมในสไตล์ญี่ปุ่นนั่น คือ ชงด้วยมือ”
พี่นิกกี้ตอบคาถามพร้อมชงให้เราดูไปพร้อมกัน
นี่คือสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพิถีพิถัน กว่าที่จะได้มาแต่ละแก้ว ซึ่งจะไม่ได้ใช้เครื่องชงกาแฟเหมือนร้านทั่วไป
และก็ยังคงสไตล์การชงด้วยมือแบบนี้อยู่เรื่อยมา
และนอกจากความประณีตของการชงกาแฟแล้ว พี่นิกกี้ยังเต็มไปด้วยความใส่ใจลูกค้าที่เราเองก็นึกไม่ถึงเช่นกัน
อย่างเช่นน้ำแข็งของร้าน เมื่อได้มาจากโรงงานน้ำแข็ง ก็จะมาล้างให้สะอาดด้วยน้ำเปล่า ก่อนนำมาแช่ฟรีส และนำมา
เซาะด้วยมือเพื่อเสิรฟ์ ให้ลูกค้า ถือว่าเป็นเรื่องเล็กๆ ที่พี่นิกกี้ไม่เคยมองข้ามจริงๆ
พี่นิกกี้
เจ้าของร้าน ABRACADABRA
มาถึงเมนูซิกเนเจอร์ของร้านบ้าง คืออะไร?
พี่นิกกี้บอกกับทีมงาน Neighbors ของเราว่า เมนูซิกเนเจอร์ของร้าน อันที่จริงไม่ได้มีอะไรเป็นหลัก
แทบทุกอย่างที่นี่ ตั้งใจทำขึ้นมาให้พิเศษทุกเมนู เช่น ที่ทำให้เราดูวันนี้ คือ Cream Soda, Ice Cream Sunder และ Americano
ที่รสชาติเป็นไปตามที่เราชอบจริงๆ
นอกจากนั้นอีกหนึ่งความพิเศษของเราคือ ได้เห็นวิธีการทำ Scone ที่นุ่มลิ้นเสิร์ฟ พร้อมแยมที่ทำเอง
ซึ่งรสชาติต้องบอกว่า ถ้าใครได้ไปลองต้องติดใจแน่นอน
ถ้ามองให้ที่นี่เป็นบ้านที่อบอุ่น คำตอบนี้ก็อาจจะใช่ แต่โดยส่วนตัวของพี่นิกกี้
เขาเป็นคนชอบกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้วประกอบกับชื่นชอบในวิถีกาแฟแบบญี่ปุ่น ทั้งวัตถุดิบ และการชงที่พิถิพีถัน
ดังนั้นเมนู ส่วนใหญ่ในร้านจึงมีวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากญี่ปุ่นทั้งสิ้น
เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสถึงความพิเศษจริงๆแล้วกาแฟที่นี่ต่างจากที่อื่นอย่างไร
“จริงๆแล้วการทำให้กาแฟ หรือรสชาติกาแฟเหมือนกับคนอื่น ไม่ใช่เรื่องยาก
แต่การทำให้เค้าประทับใจและสัมผัสถึงความพิเศษเป็นเรื่องทียากกว่า”
พี่นิกกี้ตอบคำถามด้วยความสุขุมจนทาให้เราต้องคิดตามพี่นิกกี้บอกเราว่า ทุกครั้งที่มีลูกค้าเข้ามาสั่งกาแฟที่ร้าน
สิ่งที่จะทำคือ การถามลูกค้าทุกคนเสมอว่า กาแฟที่สั่งลูกค้าชอบแบบไหน เช่น เมื่อสั่งเมนู อเมริกาโน ก็จะถามลูกค้าว่าชอบ เข้ม ปานกลาง หรือ อ่อน
เพราะแต่ละแก้วที่ชงแก้วเฉพาะของลูกค้าคนนั้น ๆ…
คำตอบนี้เรียกได้ว่า ทำให้ทีม Neighbors เพื่อนบ้านอย่างเรายิ้มออกมาทันทีกับความน่ารักที่พี่นิกกี้มีให้กับลูกค้า
กาแฟแต่ละแก้วต่างกันไปตามความชอบของลูกค้า
รสชาติกาแฟของร้านพิเศษตรงที่เมล็ดกาแฟนำเข้าจากญี่ปุ่น แน่นอนว่าทำให้ได้รสชาติพิเศษเฉพาะตัวอยู่แล้ว แต่
ความชอบของลูกค้าที่ต่างกันไปในเรื่องของความเข้ม ลูกค้าสามารถเลือกได้ และไม่ใช่แค่รสชาติเท่านั้น จริงๆมัน
เริ่มต้นความพิเศษตั้งแต่วิธิการชงเลยทีเดียว เพราะวิธีการชงของร้านนี้ ได้ทำให้แต่ละแก้ว “มีความพิเศษ”
มองไปรอบๆร้าน ยังเต็มไปด้วยสินค้าจากกธรรมชาติมากมาย
“คอนเซ็ปต์ของร้านคือการให้ผลิตภัณฑ์ทางธรรมชาติ เป็นตัวทำสมดุลให้กับสภาพจิตใจและอารมณ์ของผู้ที่ได้รับกลิ่น”
ดั้งนั้น ภายในร้านจึงอบอวลด้วยผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เช่น SOY CANDLE เทียนหอมที่มีกลิ่นที่พิเศษที่ทำขึ้นเอง ครบทั้ง 7 วัน 7 กลิ่น
หรือ OIL BALM และพิมเสนน้ำจากธรรมชาติ
จริงๆ ABRACRADABRA ดูมีซิกเนอเจอร์เต็มไปหมด ทำไมพี่ถึงบอกว่าไม่มีอะไรคือซิกเนอเจอร์หลัก
คำาถามสุดท้ายนี้ พี่นิกกี้ตอบเราด้วยความจริงใจว่า “ทุกครั้งที่ทำเครื่องดื่มหรือขนมใดๆในร้าน
พี่นิกกี้จะทำจนกว่าจะรู้สึกชอบใจในรสชาติ
ก่อนที่จะบันทึกให้กลายเป็นเมนู ส่งต่อให้ลูกค้า
และเมื่อลูกค้าได้ชิมแล้ว ก็จะส่งต่อประสบการณ์ที่ลิ้มลองผ่านความเห็นต่างๆ นาไปสู่การปรับปรุงให้มันดีที่สุด
เพราะฉะนั้นซิกเนเจอร์แท้จริง ไม่ใช้ร้านแห่งนี้ แต่คือ ลูกค้า ต่างหาก”
หลังจากเราเดินออกมาจากร้าน เราไม่แปลกใจเลย ที่ทำไมเราถึงหลงรักร้านนี้ เพราะเราเชื่อว่าหากใครได้ไปลอง
จะรักร้านนี้เหมือนเพื่อนบ้านอย่างเรา