Neighbors and friends

“ธรรมชาติกับสิ่งที่เราอยู่ ทำให้ดำเนินชีวิตไปแบบปกติสุข
ใช้ชีวิตของตัวเองให้เป็นปกติ นั่นคือ ดีที่สุด ”

คุณเมย์ สุภิสาข์ มัยขุนทด เจ้าของสวนเพชร ริเวอร์วิว รีสอร์ต จ.เพชรบุรี

ความว้าวุ่นภายในใจจะด้วยปัจจัยใดที่ทำให้ชีวิตไม่เรียบง่ายและต้องคอยครุ่นคิดอยู่ตลอดเวลาจนทำใจไม่เป็นสุข แต่หากปล่อยให้ชีวิตเดินไปอย่างช้า ๆ ใช้เวลากับธรรมชาติจะพบทางแห่งความสงบ ที่รู้สึกตัวอีกทีก็ถูกธรรมชาติบำบัด เติมเต็มชีวิตในอีกมุมหนึ่งไปแล้ว

ธรรมชาติมอบพลังของความสุข ช่วงเวลาของความสงบ จากการได้เดินทางไปที่ สวนเพชร
ริเวอร์วิว รีสอร์ต อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี โดยมี “คุณเมย์ – สุภิสาข์ มัยขุนทด” ผู้แลรีสอร์ตแห่งนี้ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ แปลงผักอินทรีย์ วิวอันสวยงามจากแม่น้ำ…
ซึ่งกว่าจะเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ขนาด 30 ไร่นี้ได้ ต้องผ่านช่วงเวลาของการต่อสู้และเรียนรู้ เพื่อให้ธุรกิจได้ไปต่อ จนกลายเป็นศูนย์การเรียนรู้การเกษตรที่น่าสนใจ จึงทำให้การเดินทางในครั้งนี้เป็นอีกหนี่งประสบการณ์ที่มีค่าและมีความหมาย  ณ เกาะเกษตรอินทรีย์

#เสียงของความสุขสู่การสร้างรีสอร์ตริมแม่น้ำ

สวนเพชร ริเวอร์วิว รีสอร์ต ถูกจุดประกายด้วยเสียงของความสุขจากผู้พักในรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่ร้องเพลงกันสนุกสนาน ทำให้คนแถวนั้นได้ยิน รวมถึงคุณพ่อของคุณเมย์ที่ไปทำงานใกล้ ๆ แถวนั้นพอดี จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ฝันอยากเปิดรีสอร์ตของตัวเองแบบนี้บ้าง เพื่อมอบความสุขให้กับนักท่องเที่ยว จนในที่สุดก็เปิดได้จริง ๆ และกลายเป็นธุรกิจของครอบครัว แต่เรื่องราวที่เหมือนจะสวยงามก็ไม่ได้เรียบง่ายเสมอไป

“จากที่ดินที่ซื้อไว้ติดริมแม่น้ำที่เป็นที่ดินค่อนข้างสวย คิดแค่ว่ามีที่ติดแม่น้ำ จะปลูกผักแล้วก็ขายอย่างเดียว แต่ได้แรงบันดาลใจจากการไปทำงานที่อื่นและเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีแต่ความสุข คนมาพักก็มีความสุข เลยลงทุนทำรีสอร์ต แต่ก็เจอปัญหาช่วงธุรกิจซบเซา คนไม่ท่องเที่ยว จนเมื่อปี 58 คุณพ่อถามในที่ประชุมพี่น้องทุกคนว่าขายที่นี่ไหม แต่สุดท้ายทุกคนบอกไม่ขาย จะสู้เพราะมันคือที่ผืนหลักของครอบครัวที่เป็นเหมือนจุดศูนย์รวม”

#วางชีวิตคนเมืองเพื่อสานต่อความฝันของพ่อ

ชีวิตการทำงานของคุณเมย์หลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ ซึ่งไม่เคยวางแผนว่าจะต้องหลีกหนีความวุ่นวาย ความเร่งรีบและรถติด เพื่อกลับมาใช้ชีวิตต่างจังหวัด แต่เมื่อครอบครัวพบวิกฤตทางธุรกิจ จึงทำให้คุณเมย์ตัดสินใจกลับมาช่วยที่บ้าน แม้จะยังไม่เห็นหนทางว่าจะไปต่อได้อย่างไร รู้เพียงต้องสู้ และมองหาสิ่งใหม่เพื่อให้รีสอร์ตของครอบครัวเดินต่อไปได้

“คุยกับทางบ้านว่าเราต้องมองหาวิธีการใหม่ ๆ ที่จะต้องฟื้นธุรกิจกลับมาให้ได้ พอมาพูดคุยกันแล้วตกผลึกไปเจอกุญแจบางอย่าง คือ คุณพ่อทำเกษตรมาค่อนชีวิต แต่เราไม่เคยเอาสิ่งที่คุณพ่อถนัดมาใช้ประโยชน์จริง ๆ กับรีสอร์ตเลย จึงลองเอาเรื่องของการทำเกษตรมาแมตช์กับธุรกิจรีสอร์ต  จากนั้นก็ออกไปหาความรู้จากที่ปราชญ์ต่าง ๆ  เลยค่อย ๆ กลายมาเป็นการทำธุรกิจรีสอร์ตและสร้างพื้นที่การเรียนรู้”

#สิ่งรอบตัวสร้างแรงบันดาลใจในการปลูกผักอินทรีย์

“พื้นที่เดิมที่มีอยู่เราไม่เคยใช้ประโยชน์อะไรจริงจัง เพราะว่าตอนนั้นที่คุณพ่อสร้างรีสอร์ต แต่พื้นที่ฝั่งตรงข้ามเราเป็นของอีกคนที่เขากำลังเล็งว่าจะทำเหมืองทราย คุณพ่อเลยตัดสินใจซื้อที่ดิน 20 ไร่ ตรงนั้น เพราะไม่อยากทำวิวที่เป็นธรรมชาติมันเสียไป และมองเรื่องการกิน การอยู่ การใช้ในครอบครัว เลยปลูกเอาไว้เป็นพืชหมุนเวียนเพื่อไว้สำหรับทำอาหารทานในครอบครัว นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ว่าลดรายจ่ายในครัวเรือนก่อนเป้าหมายแรก และนำมาทำเป็นเมนูให้ลูกค้ากิน ปรากฏว่าลูกค้าก็พอใจ บางทีลูกค้าขอไปเดินดูในแปลงผัก เลยกลายเป็นกิจกรรมให้ลูกค้า ซึ่งบางคนแค่ต้นของผักยังไม่เคยเห็น มันเลยกลายเป็นลูกโซ่ต่อไปเรื่อย ๆ”

สิ่งที่เล่า ไม่เท่าสัมผัสเอง คุณเมย์จึงได้พาเที่ยวชมเกาะเกษตรอินทรีย์ ที่สร้างขึ้นจากหัวใจและให้ความสำคัญกับธรรมชาติ จากพื้นที่ต้อนรับบริเวณหน้ารีสอร์ตข้ามสะพานเหล็ก โดยมีด้านล่างเป็นสายน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนแก่งกระจาน พร้อมด้วยสายลมที่พัดมาให้คลายร้อน  กลายเป็นภาพของความประทับใจที่ธรรมชาติได้มอบให้เราอย่างไม่รู้ตัว

#เกาะเกษตรอินทรีย์ ที่ให้คุณค่าในทุกพื้นที่

เกษตรอินทรีย์ไม่ได้หมายถึงเพียงการปลูกพืชผลทางการเกษตรเท่านั้น แต่คุณเมย์เล่าด้วยแววตาแห่งความสุขว่า สัตว์เลี้ยงเป็นอินทรีย์ได้ด้วยเช่นกัน พร้อมพาไปชมไก่อินทรีย์ที่สัมผัสได้ถึงความอารมณ์ดี พร้อมบ่อปลา บ่อกบ และดินที่ปรุงขึ้นมาเอง โดยให้ความใส่ใจในทุกพื้นที่ของสวนแห่งนี้

“การเลี้ยงไก่ไข่ ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 100 ตัว เราเลี้ยงในระบบอินทรีย์จนได้รับการยอมรับได้ใบรับรองมาตรฐานจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไก่อินทรีย์จะเป็นขั้นสุดกว่าไก่อารมณ์ดี อาหารถือเป็นสิ่งสำคัญต้องเป็นอาหารจากธรรมชาติ ต้องเป็นผักที่ปลอดสาร และวัตถุดิบหลักอีกอย่าง คือ รำและปลายข้าว ต้องมาจากแหล่งปลูกที่เป็นอินทรีย์ มีใบรับรองที่มีมาตรฐาน ไก่ไข่อินทรีย์ค่อนข้างจะทำยากและต้นทุนสูง จะซื้อแม่ไก่สาวและนำปรับวิธีการเลี้ยงก่อน มีการปรับเรื่องอาหาร ช่วงระยะปรับเปลี่ยนเป็น 2 เดือนอย่างต่ำ ไม่มีการฉีดวัคซีน แต่ใช้การสร้างภูมิคุ้มกันด้วยสมุนไพร แล้วก็มาเลี้ยงปลา เลี้ยงกบขยายไปเรื่อย ๆ”

“ที่ผ่านมาลูกค้าต้องการเยอะ แต่เราพยายามทำตามที่กำลังเราทำได้ มองว่าศักยภาพเราแค่นี้พอใจแล้ว ถ้าเราโลภเมื่อไหร่เราจะเหนื่อย จะไม่มีความสุข เราเลือกที่จะไม่ส่งซูเปอร์มาร์เก็ตแม้จะคนติดต่อมาเยอะมาก เป็นคนชอบถามตัวเองว่า เราต้องการตรงนั้นไหม อยู่จุดไหนแล้วเรามีความสุขและสบายใจ เพียงแค่ตอบตัวเอง เอาแค่นี้แหละ… พอแล้ว วันนี้คือมีความสุขกับการได้แบบอยู่กับพื้นที่สีเขียว อยู่กับเกษตร และอยู่กับสัตว์”

#ความสุขที่สัมผัสได้จากธรรมชาติ

ณ เกาะเกษตรอินทรีย์แห่งนี้ ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ถูกรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ
ให้ได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางความสงบ กลายเป็นความสุขที่เรียบง่ายของคุณเมย์
เพียงแค่ได้อยู่กับสัตว์เลี้ยงและตั้งใจดูแลเขาอย่างเต็มที่

“พี่เป็นคนชอบอยู่กับธรรมชาติ ชอบอยู่กับสัตว์ คุยกับมันแม้แต่ตัวกบตัวเล็ก ๆ 
เราอยู่กับสัตว์แล้วเรามีความสุข เราคิดแค่ว่าตอนแรก ๆ ที่เริ่มเลี้ยงไก่ เลี้ยงกบ เลี้ยงปลา
เหมือนเราต้องรับผิดชอบชีวิตเขา ก็เลยกลายเป็นว่าต้องทำให้เขารู้สึกว่า เขาอยู่แล้วเขามีความสุข ถึงแม้วันหนึ่งเขาตายก็ให้มันเป็นการตายแบบธรรมชาติของเขา ไม่ได้เกิดจากการที่เราไม่ดูแลเขา สำหรับไก่ จะมีการปลดกรง คือ 3 ปี มันจะไม่ไข่แล้ว พอปลดกรงก็จะให้คนอื่นไป แต่เขาจะไปทำอะไร เราต้องทำใจเพราะแล้วแต่เขา ตอนอยู่กับเราคือเราดูแลเขาเต็มที่แล้ว”

#ทำเพื่อ เขาและ เราให้มีความสุข

ทุกอย่างบนโลกนี้ความสุขที่แท้จริง คือต้องสุขทั้งเขาและเรา เขาสุขเราทุกข์ นั่นไม่ใช่ความสุข เราสุขเขาทุกข์ ก็ไม่ใช่ความสุขอีก ซึ่งที่เกาะเกษตรอินทรีย์แห่งนี้คือที่ที่เป็นความสุขที่แท้จริง
เพราะคุณเมย์ทำทุกอย่างด้วยความสุข เพื่อให้สัตว์ทุกตัวมีความสุข ใช้ชีวิตตามธรรมชาติอย่างเต็มที่ ภาพที่คุณเมย์พาเราไปดูที่ต่าง ๆ และมีสุนัขรู้ใจ 2 ตัว ที่คอยตามติดคุณเมย์ไม่ห่าง
เป็นภาพที่ชวนให้ยิ้มตามไปกับความสุขท่ามกลางธรรมชาติ แม้จะบอกว่าการกลับมาช่วยที่บ้านครั้งนี้ คือการเริ่มจากศูนย์ แต่ด้วยความตั้งใจที่ไม่ยอมแพ้
ทำให้คุณเมย์ได้เดินทางสู่ศูนย์การเรียนรู้ที่มอบทั้งความรู้และความสุขให้กับผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

“ตอนนั้นที่กลับมาทำอะไรไม่เป็น เริ่มจากศูนย์จริง ๆ แต่จะเป็นคนชอบถามตัวเองว่า พอใจตรงไหน มีความสุขแล้วหรือยัง เวลานี้เป็นยังไงเช็คสภาพจิตใจตัวเองตลอด พอมันเริ่มไปต่อได้ เราเริ่มรู้สึกว่า อยากให้อะไรกับคนข้างนอกบ้างเวลาที่เดินทางเข้ามา อย่างน้อย ๆ ให้เข้ามาเดินดูแล้วเขาได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ได้เห็นต้นไม้สีเขียวแล้วเขามีความสุขกลับไป เราก็โอเค แต่ถ้าจะดียิ่งกว่าถ้าเขามาแล้วเขาได้อะไรกลับไป อย่างเช่น มาเรียนเรื่องทำปุ๋ย มาขอความรู้เรื่องการการปลูกต้นไม้ แล้วเขาได้กลับไปทำจริง ๆ และเขามีความสุข แล้วก็กลับมาบอกเราว่าลองกลับไปทำแล้วดีนะ คือ มันเป็นเรื่องเล็กมากเลยนะแต่เรารู้สึกว่า… มันดี ตอนนี้ก็เลยทำเป็นศูนย์การเรียนรู้ คนทั่วไปสามารถเข้ามาเดินดูได้ หรือถ้าต้องการความรู้แบบเจาะจงสามารถนัดวิทยากรวิทยากรซึ่ง คือ ตัวเราเอง คุณพ่อ และพี่ๆ ที่จะคอยให้ความรู้”

#ความปกติ คือ ความสุขในชีวิต  

ชีวิตที่ไม่ต้องรีบร้อน และปล่อยให้ดำเนินไปตามธรรมชาติ มีความสุขอย่างสมดุลเป็นมุมมองที่คุณเมย์สัมผัสได้จากการใช้เวลาอยู่ที่ สวนเพชร ริเวอร์วิว รีสอร์ต แห่งนี้

“ความปกติ คือ ความสุข
ความปกติ คือ ธรรมชาติ
ธรรมชาติ  คือ ความปกติ”

“ความปกติที่ไม่ทุกข์เกินไป ไม่สุขเกินไป ถ้าหากสุขเกินไปแล้วรู้สึกว่าไม่โอเค จะทำให้รู้สึกว่าผิดปกติหรือเปล่า คนเราต้องมีเรื่องทุกข์เข้ามาบ้าง สุข – ทุกข์ มันคู่กัน ใช้ชีวิตของตัวเองให้เป็นปกติที่สุดนั่นคือดีที่สุด ไม่ต้องมากเกินไป ไม่ต้องน้อยเกินไป ทุกอย่างเป็นเหมือนความสมดุล มันดีสำหรับตัวของเราเองในการเลือกที่จะมองแบบนี้ ซึ่งมองว่า คือ หลักธรรม .. ธรรมะเท่ากับธรรมชาติ อยู่กับธรรมชาติแล้วมันเหมือนไม่รีบ ด้วยตัวของธรรมชาติกับสิ่งที่เราอยู่ มันดำเนินชีวิตไปแบบปกติสุข”

สายลมที่พัดผ่านช่วยทำให้กายได้ผ่อนคลาย สายน้ำที่ไหลเย็นช่วยทำให้ใจเย็นได้ ลองปล่อยใจให้ได้หยุดคิด ใช้ชีวิตกับธรรมชาติ อาจได้สัมผัสความสุข ความสงบ อย่างเรียบง่าย เหมือนอย่างที่เราได้ออกเดินทางมาสัมผัสธรรมชาติในครั้งนี้  เพราะเราอยากเห็นเพื่อนบ้านทุกคนมีความสุข