Neighbors and friends

คุณเปิ้ล – ศิริวิมล กิตะพานิชย์ เกษตรกรยุคใหม่
เจ้าของไร่รื่นรมย์เกษตรอินทรีย์ที่ อ.เทิง จ.เชียงราย

“คุณเปิ้ล” ผู้หันหลังให้กับชีวิตในเมืองใหญ่ เพื่อ
สานต่อความชอบด้านเกษตรกรรม จนทำให้เธอ
ค้นพบสิ่งที่ใช่ และพบความหมายของ “สมดุลชีวิต” ที่ “พอดี”

      เรื่องราวของ “คุณเปิ้ล” เพื่อนบ้านที่เรามองว่า
เรื่องราวของเธอนั้นเต็มไปด้วย “แรงบันดาลใจ”
ที่จะส่งต่อให้เพื่อนบ้านได้อีกหลายคน นั่นจึงเป็น
สาเหตุที่ทำให้เราออกเดินทางไปหาเธอถึงจังหวัด
เชียงราย เพื่อทำความรู้จักกับเพื่อนบ้านของเราคนนี้ ให้มากยิ่งขึ้น…
 

ทิ้งชีวิตเมืองใหญ่ ก้าวสู่อาชีพเกษตรกรเต็มตัว

จากจุดเริ่มต้นในงานอาสา ทำให้คุณเปิ้ลค้นพบตัวเองว่าเธออยากทำงานพัฒนาชุมชน จึงหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต และได้คำตอบว่าเกษตรอินทรีย์คือหนึ่งในเครื่องมือที่ สามารถพัฒนาชุมชนได้เช่นกัน

“ตอนนั้นความรู้เรื่องเกษตรอินทรีย์เราไม่มีเลย จึงไปเรียนรู้ และใช้ชีวิตที่ศูนย์เรียนรู้เกษตรอินทรีย์ที่นนทบุรีเป็นเวลา 1 ปี
เพื่อดูศักยภาพตัวเราว่าจะทำได้หรือเปล่า จนสุดท้ายก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่จังหวัดเชียงราย เพราะครอบครัวซื้อที่ดินไว้อยู่แล้ว”
คุณเปิ้ลกล่าวด้วยแววตาเป็นประกาย

เธอใช้แรงกายแรงใจทั้งหมดพลิกฟื้นผืนดินเปล่าของครอบครัว สร้างแปลงเกษตรอินทรีย์กว่า 500 ไร่ ตามแนวพระราชดำริเกษตรพอเพียงของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 กระทั่งต่อยอดสู่ “ไร่รื่นรมย์” ไร่เกษตรอินทรีย์แบบครบวงจร ที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่แปลงปลูกผัก แต่ยังเป็นพื้นที่ที่เปิดโอกาสให้คนได้สัมผัสประสบการณ์การใช้ชีวิต กิน อยู่ นอน เรียนรู้กับธรรมชาติ พร้อมหาคำตอบของจุดสมดุลในตัวเอง ผ่านฟาร์มเกษตรอินทรีย์ ที่พักฟาร์มสเตย์ กิจกรรมเชิงเกษตร และร้านอาหารออร์แกนิก ซึ่งใช้วัตถุดิบภายในไร่ และวัตถุดิบท้องถิ่นอย่าง งาขี้ม้อน มะแขว่น มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารสุขภาพให้ทานง่ายขึ้นในรูปแบบหน้าตาอาหารที่คนทั่วไปคุ้นเคย

“เราอยากเป็นตัวกลางเชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรและผู้บริโภค ให้ผู้บริโภคได้เห็นคุณค่าของเกษตรกร ผ่านการเรียนรู้ที่มาของอาหาร ตั้งแต่ขั้นตอนการปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการแปรรูป ขณะเดียวกันเกษตรกรก็ต้องคำนึงถึงผู้บริโภคด้วย โดยเปลี่ยนจากการทำเกษตรเคมีเป็นเกษตรอินทรีย์ เพื่อส่งมอบสุขภาพดีแก่ผู้บริโภคทุกคน”

นิยามความสุขที่วัดเป็นตัวเงินไม่ได้

นิยามความสุขของแต่ละคนแตกต่างกัน บางคนสุขจากการแบ่งปัน บางคนสุขจากการทาน อาหารมื้ออร่อย
และบางคนสุขเพราะได้สร้างความสุขให้ผู้อื่น
“ความสุขคือการได้เห็นคนรอบตัวมีชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งคนที่ทำงานกับเรา เกษตรกร และคนในชุมชน
จากตอนแรกพวกเขาไม่เชื่อว่าเกษตรอินทรีย์จะสามารถ ให้ผลผลิตที่งอกเงยเหมือนอย่างเกษตรเคมีได้
แต่สิ่งที่เราทำ และระยะเวลาก็เป็นเครื่องพิสูจน์แล้วว่ามันสามารถทำได้นะ และดีกว่าด้วย มันเป็นความสุขที่วัดเป็นตัวเงินไม่ได้ ”
คุณเปิ้ลเล่าให้ทีมงานฟังอย่างภาคภูมิใจ

ส่งต่อแนวคิด ความพอดีที่ยั่งยืน
มากกว่าธุรกิจ คือแนวคิดที่สามารถช่วยพัฒนาสังคม และความเป็นอยู่ของคนในชุมชนให้ดีขึ้น ซึ่งแนวคิดไม่สามารถส่งต่อถ่ายทอดได้ในระยะเวลาอันสั้น ต้องอาศัยระยะเวลา และการเชื่อมโยงผู้คน คุณเปิ้ลจึงเล็งเห็นว่า การจะขับเคลื่อนแนวคิด ให้สังคมเติบโต อาจต้องทำผ่านการสร้าง Community ที่ให้ทุกคนได้เข้าถึง ได้ศึกษาความรู้เกี่ยวกับความพอดีที่ยั่งยืน  แลกเปลี่ยนประสบการณ์เกี่ยวกับวิถีธรรมชาติ การเกษตรอินทรีย์ หรือการเกษตรเชิงสร้างสรรค์  โดยหวังว่าสิ่งที่พึงกระทำอยู่นั้น จะเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นใหม่ ที่คิดและอยากทำในสิ่งที่ชอบ อยากทำเพื่อสังคม จงยึดมั่นเพื่อส่งต่อถ่ายทอดแนวคิดดีๆ ให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป

ความสุขที่ได้สัมผัสจากธรรมชาติ
“เราได้มองท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปทุกวัน พระอาทิตย์ขึ้นและตกก็ไม่เหมือนเดิมสักวัน เรารู้สึกตื่นเต้นกับธรรมชาติตลอดเวลา มันเป็นความสุขที่เรียบง่าย ที่ทำให้เราสุขใจ”
“ธรรมชาติให้เรามาทั้งชีวิต ถ้าเราทำร้ายธรรมชาติ สุดท้ายผลลัพธ์ก็ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาโลกร้อน หมอกควัน หรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ ทั้งหมดล้วนมาจากธรรมชาติที่เราไปทำร้ายเขาก่อน”
“ธรรมชาติไม่ใช่สิ่งน่ากลัวและลำบากอย่างที่หลายคนกังวล ถ้าเราได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติเราจะเจอตัวเอง เราจะพบคำตอบหลาย ๆ อย่าง”

หาจุดสมดุลในการใช้ชีวิต แล้วจะพบความรื่นรมย์ที่แท้จริง

ความสมดุลไม่ใช่ว่า 50/50 มันแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ละพื้นที่ ฉะนั้นคนเราต้องหาจุดสมดุลที่เหมาะสมกับตัวเองให้เจอ
“จุดสมดุลในชีวิตสำหรับเปิ้ลก็คือการได้กลับมาอยู่กับธรรมชาติ และมีเวลาคิดทบทวนตัวเอง  ซึ่งคำว่าธรรมชาติไม่ใช่ต้นไม้ใบไม้อย่างเดียว แต่รวมถึง “คน” ด้วย มันเป็นความสุขที่ไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่ทุกครั้งที่เรามีความสุข มันเป็นแรงผลักดันให้เราทำหน้าที่ปัจจุบันต่อไป และนั่นทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตเรามีคุณค่า” 
หลังพูดคุยกับคุณเปิ้ล ก็ทำให้เราตระหนักคิดได้ว่า จริงๆ แล้วความสุขคนเราคือมันก็แค่นี้ แค่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ เป็นในสิ่งที่อยากเป็น ถึงจะเหนื่อยแต่มีความสุข โดยไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่างสมบูรณ์แบบเหมือนที่คนอื่นคาดหวัง เพราะเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว