“การส่งต่อที่ดี คือการส่งต่อสารตั้งต้นที่ไร้พิษให้ผู้อื่น”
นั่นคือความสุขของการส่งต่อที่แท้จริง
คุณอีฟ เจ้าของแบรนด์ Evely’s Baked & Bites ผู้ทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ –
เพราะบนโลกนี้มีเมื่อมีผู้รับ ก็ต้องมีผู้ให้ แต่ผู้ให้แบบไหนถึงจะเป็นผู้ให้ที่มีความสุขอย่างยั่งยืน วันนี้เราได้มาพูดคุยกับคุณอีฟ ธิดารัตน์ รวมสำราญ หรือที่ใคร ๆ เรียกว่า ครูอีฟ เจ้าของแบรนด์ Evely’s Baked & Bites ผู้ทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ และเป็นผู้ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของการให้ ไม่ใช่แค่ความตั้งใจเพื่อให้เกิดการมอบให้ แต่คือความตั้งใจตั้งแต่การเลือกสิ่งตั้งต้นในการที่จะให้ผู้อื่น สิ่งที่เราจะให้ ก็เหมือนสารตั้งต้นของความตั้งใจ ถ้ามันบริสุทธิ์ตั้งแต่แรก มันจะบริสุทธิ์ไปทั้งกระบวนการให้นั้น
.
คุณอีฟ ได้เริ่มต้นการพูดคุยกับเราถึงจุดเริ่มแรกของการทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติที่เกิดจากความชอบของตัวเอง ไปจนอยากส่งต่อให้คนที่รักใกล้ตัว คนที่รักรอบตัว และส่งต่อให้แม้ผู้ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ด้วยการโฟกัสที่ “สิ่งของที่เธอจะส่งต่อ” มากกว่าแค่ “ความรู้สึกอยากจะส่งต่ออย่างเดียว” จึงทำให้เกิดกระบวนการทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ อาหารที่เป็นเสมือนสารตั้งต้นที่ไร้พิษจากธรรมชาติ เพื่อความสมดุลทั้งร่างกาย สังคมและสิ่งแวดล้อม
จุดเริ่มต้นของ “สิ่งที่จะส่งต่อ” คือความชอบของตนเอง
คุณอีฟ เริ่มต้นแนวความคิดที่อยากทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติด้วยความชอบของตัวเองที่มีตั้งแต่เด็ก แม้เมื่อโตขึ้นเธอจะจำได้เพียงรสชาติที่คุ้นเคย แต่ไม่รู้ว่าที่แท้จริงแล้วขนมปังก้อนนั้นที่เธอชอบทำมาจากอะไร แต่เธอก็พยายามตามหาสิ่งนั้น ศึกษา และทดลอง เพื่อให้ความชอบของตัวเองนั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
“ขนมปังจริง ๆ เป็นสิ่งที่เราชอบตั้งแต่เด็กเลยนะ คือสมัยเด็ก ๆ เราเรียนอยู่นิวซีแลนด์ จะมีแม่บ้านทำขนมปังให้กิน คือกินทุกเช้าเลย แล้วเราชอบมาก แต่ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไร เพราะตอนเด็ก ๆ เราก็กินอย่างเดียว ที่นี้พอกลับมาเมืองไทยเราก็กินขนมปังเหมือนเดิมนี่แหละ เราก็ซื้อมาแต่รสชาติมันไม่ใช่แบบที่เราชอบ จนวันนึงเราไปเจอร้านขนมปังที่ขายอยู่ข้างล่างตึก แล้วแบบพอชิมไปรู้สึกใช่เลย เหมือนที่เราเคยกิน เราก็เลยศึกษา แล้วรู้ว่า อ๋อ มันคือขนมปังที่ทำจากยีสต์ธรมชาติ เราก็เลยตัดสินใจใช้เวลากับมัน”
และเมื่อคุณอีฟได้เจอคำตอบในสิ่งที่ตัวชื่นชอบมาตั้งแต่เด็กแล้ว เธอก็ตั้งใจที่จะส่งต่อสิ่งนี้ให้กับคนที่เธอรักโดยไม่ลังเล เพราะขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ มันคือธรรมชาติจริง ๆ ไม่มีสารเคมีใดใด ถ้าเปรียบสิ่งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของกระบวนการส่งต่อ ก้อนขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติชิ้นนี้ ก็คงจะเหมือนสารตั้งต้นของกระบวนการส่งต่อ ที่ได้รับการคัดสรรมาแล้วว่าคือสารตั้งต้นที่บริสุทธิ์ ปลอดภัย และไม่มีสารพิษ
จากก้อนขนมปังที่ชอบ สู่การส่งต่อเป็นอาหารมื้อโปรดของครอบครัว
ด้วยความที่คุณอีฟเคยเรียนทำอาหารที่ เลอ กอร์ดอง เบลอ มาก่อน ทำให้เธอมีความรู้พื้นฐานในการทำอาหาร โดยเฉพาะการทำขนมปังที่เธอชื่นนชอบ ทำให้เมื่อกลับมาเมืองไทย คุณอีฟได้ทำขนมปังให้ครอบครัวทาน แต่ก่อนที่เธอจะได้รู้จักกับขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ เธอก็ทำขนมปังอิ่มตัวทั่วไปให้คุณพ่อคุณแม่ได้ทาน ซึ่งตามประสาพ่อแม่แล้ว สิ่งที่ลูกทำให้ คือความอร่อยมากที่สุด และคุณพ่อคุณแม่ก็ชอบทานมาก แต่เมื่อทำไปได้ไม่นาน เธอก็รู้ว่า สิ่งที่เธอทำนั้นอาจะไม่ดีต่อสุขภาพของผู้สูงอายุนั้น เพราะทำให้เกิดไขมันสูง และไม่เผาผลาญ ประกอบกับเธอรู้จักกับยีสต์ธรรมชาติแล้ว จึงทำให้เธอเปลี่ยนการทำขนมปังให้ที่บ้านโดยทันที
“ ตอนนั้นเราทำขนมปังให้คุณพ่อคุณแม่ทาน ก็ทำแบบอิ่มตัวทั่วไปนี่แหละค่ะ พ่อแม่ชอบกินมากเลย เขาอยากกินของที่เราทำ แต่พอทำไปเรารู้สึกอย่างหนึ่งคือมัน High Fat มันไม่เผาผลาญสำหรับเขา เราเลยไม่อยากส่งต่อแล้ว และตอนนั้นเราศึกษาขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ และเรารู้ว่ามันมีประโยชน์ ย่อยง่าย ปลอดภัยกับเขา เราเลยทำอันนี้ให้กินเลยดีกว่า มีประโยชน์กว่า”
และจากครอบครัว คุณอีฟก็เริ่มส่งต่อกระบวนการให้ที่ไร้พิษให้กับเพื่อนบ้านอีกหลายคน ด้วยความเชื่อว่า เมื่อเราส่งต่อสิ่งที่ดีจริง ๆให้ผู้อื่นจากใจ ผู้รับจะรู้สึกได้และจะเป็นความสุขอย่างยั่งยืน
การส่งต่อให้ผู้อื่น จึงไม่ใช่เพียงก้อนขนมปัง แต่คือความรู้ ความเข้าใจ ของการผลิตกระบวนการทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ
.
“การทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติเหมือนการทดลองเลยนะคะ คนทำก็เหมือนนักทดลองเลยค่ะ เราก็เอาจากที่เราทดลองทำมาไม่ว่าจะเป็นยีสต์จากลูกเกด หรือยีสต์จากผลไม้ มาสอนในเวิร์กช็อป ซึ่งเรารับทุกคนนะคะ เราก็สอนตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบ การใช้แป้ง การใช้น้ำในสัดส่วนเท่าไหร่ และที่สำคัญคือเรื่องของสัมผัสค่ะ ว่าเนื้อแป้งประมาณนี้ใช้ได้มั้ย ถ้าแป้งเปลี่ยนทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยน มันจะใช้สูตรเดิมไม่ได้ หรือยีสต์จากธรรมชาติที่ไม่เหมือนกัน มันก็สร้างคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน ถ้าเราใช้ยีสต์จากผลไม้รสเปรี้ยวเราจะได้ความฟูเบา แถมเรายังได้เชื้อพวกแบคทีเรียตามธรรมชาติด้วยค่ะ”
แต่นอกจากส่งต่อแล้ว คุณอีฟยังบอกเราว่า การทำขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ มันไม่ใช่แค่การทำอาหาร ขึ้นชื่อว่าธรรมชาติแล้ว มันจะเกิดกระบวนการบางอย่างจากธรรมชาติด้วยเหมือนกัน นั่นคือ จิตใจและความรู้สึก ที่เราต้องฝึกให้มันเป็นธรรมชาติ เหมือนกับคำสอนในพระพุทธศาสนาเลยจริง ๆ
“คือเราว่านอกจากการทำขนมปังแล้ว สิ่งที่เราได้จากการทำสิ่งนี้อย่างคาดไม่ถึงเลยก็คือ เรื่องของธรรมชาติ การรู้กลไกของธรรมชาติ เหมือนเปิดโลกเลยค่ะ การที่เราเพิ่งรู้ว่ามันมีเหตุผลของมันในการทำขนมปังหนึ่งชิ้น แป้งจากต้นกำเนิดแต่ละที่ก็มีคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน เราก็ต้องหาข้อมูลและทดลองไปเรื่อย ๆ แต่ที่มากกว่านั้นคือเรื่องของวินัยค่ะ เราต้องเป๊ะในเรื่องของเวลา ถ้าไม่เป๊ะมันจะส่งผลบางอย่างทันที ทุกแปดชั่วโมงเราต้องมาดู และก็ต้องปรับต้องลองทำ นอกจากนั้นมันยังเป็นเรื่องพุทธศาสนาอีกนะคะ คือการต้องยอมรับ เข้าใจ เพราะบางทีผลลัพธ์มันไม่ใช่อย่างที่เราต้องการ ก่อนหน้านี้เราเป็นคนยึดติดกับผลนะคะ แต่ไม่มีใครสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกหรอกค่ะ พอเราเข้าใจเรื่องนั้น มันเป็นธรรมชาติไปหมดเลย ตั้งแต่ของที่เราทำ ไปจนถึงในใจเรา”
จากสารตั้งต้นที่ไร้พิษ นำไปสู่กระบวนการส่งต่อที่มีคุณค่า และระหว่างทางยังเต็มไปด้วยเรื่องราวของแนวคิดแห่งความสมดุลในธรรมชาติ ที่สอนได้ทั้งตัวเราและผู้อื่น ใครจะรู้ว่า “ก้อนขนมปังจากยีสต์ธรรมชาติ” เพียงหนึ่งก้อน ที่วางอยู่บนโต๊ะอาหารจะมีเรื่องราวความเป็นมาที่น่ารัก และอบอุ่นหัวใจได้ขนาดนี้
คงเพราะขนมปังชิ้นนี้ ได้สร้างขึ้นมาจากความตั้งใจที่แท้จริง เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของการส่งต่อที่จริงใจจากผู้ให้ สู่ผู้รับ แม้ในวันนี้เราอาจะไม่รู้สึก แต่เชื่อเถอะว่าในวันหนึ่งเมื่อเราให้สิ่งที่ดีจนชิน และรับสิ่งที่ดีจนชิน เราก็จะมีความสุขจนชินได้เช่นกัน
.
บางทีความสุขก็ง่ายมาก แค่ส่งต่อและมองหา “ความสุขที่ไร้พิษ” ในชีวิตให้ตัวเองบ้างก็พอ