#ธนูคือการฝืนธรรมชาติให้เป็นไปโดยธรรมชาติ…นี่คือคำจำกัดความที่เกิดขึ้นหลังจากบทสนทนาของเรากับ คุณดาว ชาญชัย ประทีปวัฒนวงศ์
นักกีฬายิงธนูทีมชาติไทยได้จบลง สำหรับใครหลายคนแล้ว กีฬายิงธนูอาจเป็นสิ่งที่ไม่คุ้นชิน แต่ในความเป็นจริงกีฬายิงธนูนี่แหละที่เป็นครูโดยธรรมชาติ
ครูผู้สอนให้เราได้ รู้จักธรรมชาติ – ฝืนธรรมชาติ – จนเป็นไปโดยธรรมชาติ
ในวันนี้สำหรับคุณดาว ผู้ซึ่งผูกพันกับการยิงธนูมากว่า 14 ปี และติดทีมชาติไทยมากว่า 9 ปี ได้บอกกับเราว่า จากเด็กที่เรียนจบจากต่างประเทศและฝันอยากเป็นนักกีฬาเท่ๆเหมือนคนอื่น กลายเป็นว่าได้ค้นพบเสน่ห์บางอย่างที่. ซ่อนอยู่ในการยิงธนู ที่มากกว่าแค่การแต่งคันธนูให้สวยงาม นั่นก็คือ
“การเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้รู้จักธรรมชาติของตัวเอง”
เพราะการยิงธนูนั้น “เรา…เล่นคนเดียว”
”ถ้าให้พูดตรงๆ การยิงธนูตรงกับความเป็นตัวผมเลยครับ มันเป็นกีฬาที่เล่นคนเดียวนะไม่ต้องพึ่งคนอื่น ไม่ได้ว่าแบบพึ่งคนอื่นไม่ดีนะครับ แต่มันทำให้เราได้อยู่กับตัวเอง แม่นไม่แม่นก็อยู่ที่เรา ไม่มีบุคคลที่สามมาเกี่ยว ไม่ต้องเรียนรู้คู่แข่งคนไหน รู้เท่าทันตัวเองก็พอ ซึ่งการอยู่กับตัวเองและความคลาสสิกของมันนี่แหละที่ผมว่ามีความน่าหลงใหลอยู่” แต่ในข้อดีของการรู้จักธรรมชาตินั้น มันคือ ความพยายามอย่างมากที่ต้อง “ฝืนธรรมชาติ”
แม้มนุษย์เราจะรู้จักธรรมชาติของตัวเองมากเท่าไหร่ แต่มนุษย์ทุกคนล้วนถูกควบคุมด้วยธรรมชาติอีกหนึ่งอย่างก็คือ “ความรู้สึก” เพราะมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักรกล ดังนั้นการยิงธนูจึงเป็นความท้าทายอย่างมากที่ต้องฝืนธรรมชาติของความรู้สึกทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเท่ากับว่าต้องใช้ทั้งความพยายามและความอดทน
“ผมบอกแบบนี้ครับ ธนูมันคือการฝืนธรรมชาติหมดเลยทั้งร่างกายและจิตใจ อย่างร่างกายเนี่ยแกนหลักของธนูมันคือการทำซ้ำไปซ้ำมา ทุกๆวันของการฝึกซ้อมเราทำแบบเดิม ยิงท่าเดิม แต่ในความซ้ำเดิมมันคือความท้าทายมาก เพราะมนุษย์ไม่ใช่เครื่องจักร การจะทำสิ่งเดิมทุกครั้งมันเป็นไปไม่ได้ มันอาจจะใกล้เคียงแต่ไม่เหมือนกันทุกวันหรอกครับ มันขัดมันฝืนกับธรรมชาติของมนุษย์ มนุษย์เราขนาดก้าวเท้ายังไม่เท่ากันทุกก้าวเลย ดังนั้นมันคือการบังคับร่างกายให้ทำซ้ำเดิม คุมความรู้สึกเมื่อย ความรู้สึกเจ็บของกล้ามเนื้อให้ได้”
ส่วนในแง่ของจิตใจ มันคือการฝืนความรู้สึกของคนเป็นนักกีฬาทุกคน นั่นคือการฝืนความรู้สึก “อยากเอาชนะ “ … มีใครในโลกบ้างที่ลงแข่งขันแล้วไม่อยากชนะ แต่ในโลกของการยิงธนูนี่แหละที่ยิ่งอยากชนะจะยิ่งแพ้ … ไม่ได้แพ้ใครนะ.. เราแพ้ตัวเอง
“การยิงธนูสำหรับผม มันคือ “การปล่อยวาง” ปล่อยวางจริงๆนะ มันคือการไม่คิดอะไรเลย ยิงธนูคือสมาธิ ฟังดูเหมือนง่ายแต่มันไม่ง่ายเลย เพราะลึกๆนักกีฬายิงธนูทุกคนอยากชนะ อยากเข้าสิบทุกลูก แต่ในความเป็นจริงเราต้องพยายามกดความอยากนั้นไว้ ต้องผ่อนคลายให้มากที่สุด กดความอยากเพื่อไม่กดดันตัวเอง เวลาคนที่ดูเรา เขามองว่าการเช้าเป้าคือความหวัง แต่สำหรับนักยิงธนูต้องซ่อนมันเอาไว้ แล้วมีสติอยู่กับปัจจุบัน ยิงหลุดก็ต้องลืมทันที แล้วเริ่มใหม่กับลูกที่อยู่ตรงหน้าเพราะอดีตแก้ไขไม่ได้ และต้องเล็งให้น้อยจะพลาดน้อย เหมือนคำของสไนเปอร์ที่บอกว่า
Aim Small Miss Small เราต้องกดต้องฝืนความอยากชนะ เพราะยิ่งอยากชนะจะยิ่งแพ้ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผม”
แต่ในการฝืนใดใดก็ตาม เรามักพบว่ายิ่งนานวันเข้า เราจะสามารถเรียนรู้ที่จะจัดการสภาวะฝืนเหล่านั้น “ให้เป็นไปโดยธรรมชาติ” ได้อีกครั้ง
“เมื่อเราฝืนร่างกายให้ทำท่าซ้ำเดิมทุกวัน มันยากและไม่เหมือนเดิมหรอกครับ แต่นานวันเข้าเราจะทำใด้ ได้จนกลายเป็นสัญชาติญาณ ที่เราสามารถยิงธนูในท่าเดิมนั้นออกไปโดยไม่รู้ตัว และเราจะปล่อยวางในทุกๆครั้งของการยิงได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนสุดท้ายเราจะใจเย็นลง”
และเมื่อเราฝืนธรรมชาติจนเป็นไปโดยธรรมชาติ เราจะรู้ว่า ตัวเองกำลังทำอะไร มีความสามารถได้แค่ไหน และไม่ไหลไปกับโลกเทคโนโลยีในปัจจุบัน ซึ่งคุณดาวบอกเราว่า การยิงธนูนี่แหละที่ทำให้มนุษย์รู้ว่า “เรามีความสามารถมากกว่าเทคโนโลยีอย่างไร”
“โลกทุกวันนี้หมุนเร็วมากครับ เรายึดติดกับเทคโนโลยีจนบางทีเราไม่รู้ด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นศักยภาพของเราหรือเทคโนโลยี แต่การยิงธนูเป็นการทำให้เราเห็นความสามารถจริงๆของตัวเรา เทคโนโลยีมีส่วนช่วยบ้าง แต่สุดท้ายแล้วจะยิงแม่นหรือแม่น มันก็อยู่ที่ตัวคนยิง หลายครั้งที่เราคิดว่าเราอดทนมากแล้วลองมายิงธนู แล้วจะรู้ว่าเราอาจไม่อดทนอะไรเลยก็ได้ หรือเราคิดว่าเราทำงานหนักแล้ว มาลองฝึกซ้อมดู เราอาจจะรู้ว่าเราเป็นคนไม่พยายามอะไรเลยนี่หว่า เราต้องพยายามมากกว่านี้นะ เพราะทั้งหมดมันคือแรงของเราล้วนๆ”
ถ้าวันนี้เรามีเวลา 40 วินาทีในการยิงธนูหนึ่งลูก คำพูดแรกในหัวของเราอาจจะคิดว่า เร็วขนาดนี้แค่เตรียมลูกก็หมดเวลาแล้ว แต่สำหรับนักกีฬายิงธนูนี่คือเวลาล้นเหลือที่พวกเขาสามารถวางแผนการยิงลูกต่อไปได้ .. เพราะเวลาที่มีค่าของพวกเขาถูกนับเป็นวินาที และถูกใช้ด้วยการอยู่กับสติของตัวเองจริงๆ
ลองเปิดใจแล้วใช้หน่วยวินาทีของชีวิตอย่างมีสติ .. แล้วเราจะรู้ว่า ธรรมชาติยังมีช่องว่างให้คุณค่าของสิ่งที่เราทำเข้าไปเติมเต็มได้เสมอ
ขอบคุณสนามยิงธนู ArcheryThai เพื่อนบ้านที่น่ารักที่ยินดีเปิดบ้านให้เรา ใครที่สนใจลองไปฝึกสมาธิ เรียนรู้จักตัวเองจากกีฬาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์นี้ได้ ที่ซอยสหการประมูล ภายในสนามกอล์ฟ All Star ได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00-22.00 หรือติดตามได้ที่แฟนเพจ สนามยิงธนู ArcheryThai
#RespectYourself #NeighborsMore #Neighbors #Archery