ในวันที่ต้นไม้มีประโยชน์ต่อมนุษย์ด้วยการคลายออกซิเจนให้ทุกวัน แล้วเราหล่ะ? ทำอะไรเพื่อธรรมชาติบ้าง เมื่อธรรมชาติมีแต่ให้ จึงขอเล่าเรื่องราวใหม่ เพื่อคืนสิ่งที่ดีกลับให้ธรรมชาติเป็นการตอบแทน บทสนทนาที่เต็มไปด้วยความสงบและความเข้าใจในธรรมชาติที่เป็นเหมือนการตกตะกอนชีวิต
ในวันที่เราได้มาพูดคุยกับ “คุณกร สิริกร ลิ้มสุวรรณ” ผู้ก่อตั้งวิสาหกิจเพื่อสังคม บ้านรักษ์ดิน ท่ามกลางเสียงของธรรมชาติ ใต้ร่มไม้และแสงแดดอ่อน ๆ ทำให้ได้เรียนรู้ว่า ชีวิตเรียบง่ายได้ ไม่ต้องรีบร้อน บางสิ่งที่เพิ่งได้เรียนรู้อาจเปลี่ยนชีวิตให้พบอีกมุมที่มีค่าได้เพียงแค่เปิดใจ
ชีวิตที่เดินตามรอยภาพจำ เลือกเรียนกฏหมายตามคุณแม่ ด้วยเสียงค้านภายในใจที่พูดกับตัวเองเสมอว่า ไม่ใช่สิ่งที่ชอบและไม่ได้ต้องการทำในสายอาชีพนี้จนทำให้สมบัติจากคุณยาย ที่ดิน 1 ไร่ กลายเป็นสมบัติที่มีค่าด้วยความทรงจำและเป็นจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้เกษตรอินทรีย์
ตลอดการสนทนากับคุณกรที่เล่าเรื่องราวชีวิตที่สัมผัสธรรมชาติได้อย่างมีความสุข และสงบเหมือนเช่นที่คุณกรให้นิยามความสุขกับตัวเอง ก่อนจากกันคุณกรส่งต่อพลังบวกถึงเพื่อนบ้าน เส้นทางชีวิตกับธรรมชาติเส้นนี้มีเพื่อนร่วมทางมากมายที่เป็นแรงบันดาลใจจนเดินมาถึงวันนี้ และเดินต่อไปเพื่อส่งต่อเรื่องราวในอีกมุมหนึ่ง
“น่าจะไม่ใช่ผมคนเดียวที่เป็นคนสร้างแรงบันดาลใจ เพราะว่าผมก็ไปเรียนรู้จากครู อาจารย์หลาย ๆ คน แล้วก็พี่ ๆ น้อง ๆ ที่ทําเกษตรมาก่อนผม ถ้าผมเป็นแสงก็มีหลายแสงที่ช่วย ๆ กัน แต่ก็ดีใจที่หลายหลายคนบอกว่าเป็นแรงบันดาลใจ ผมไม่อยากให้เป็นแรงบันดาลใจที่สว่างวาบแล้วก็วูบไป อยากให้ลองทําอะไรง่าย ๆ ดู ลองปลูกผักง่าย ๆ ก็ได้ เมื่อปลูกได้แล้วก็จะอยากปลูกผักอะไรที่มันยาก เป็นความท้าทายตัวเอง ต้นไม้ใหญ่ไม่ได้ใหญ่ขึ้นมาเลย ใหญ่เพราะว่ามีความหลากหลาย ถ้าไม่มีต้นไม้ต้นแรก โลกนี้ไม่มีต้นไม้เลย ดังนั้นต้นไม้ต้นแรกปลูกยากที่สุด แต่หลังจากนั้นจะขึ้นต้นอื่นมาเรื่อย ๆ ผมอยากบอกว่า มันไม่มีสูตรสําเร็จ วันนี้อ่านบทความแล้วกลับไปทําอะไรสักอย่างหนึ่ง มันอาจจะนําพาไปสู่อะไรบางอย่างที่มันยิ่งใหญ่สําหรับอนาคตก็ได้ ลงมือทําวันนี้เลย ไม่ว่าจะทําอะไรทั้งนั้น ลองเรียนรู้กับตัวเอง ถ้าวันนึงที่เราได้เห็นว่า เรามีศักยภาพมากกว่าหนึ่งอย่าง มันเป็นความภูมิใจนะครับ แล้วก็อาจจะส่งต่อเรื่องราวแบบ นี้ให้กับผู้คนได้อีกเยอะ”
เพราะ “เกษตรอินทรีย์” ตามความหมายของตัวมันเองแล้วก็คือ “การเกษตรที่เป็นธรรมชาติ” เราจะทำมันได้คือการเชื่อและปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ เช่นเดียวกับกับมนุษย์ทุกคนที่มีเส้นทางธรรมชาติของตัวเอง ถ้าเราลองปล่อยตัวเราให้มีความรู้สึกแบบนั้นบ้าง เชื่อในสมดุลของธรรมชาติในตัวเอง เราจะมีความสุขอย่างสมดุลมากขึ้นอย่างแน่นอน