“ตัวเรามีคุณค่าแค่ไหน”
คำถามนี้อาจจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับใครบางคน และคำตอบแต่ละครั้งก็ได้ต่างกันตามห้วงอารมณ์และเวลา แต่สำหรับเธอคนนี้คำตอบนี้ยังชัดเจนเหมือนเดิมทุกครั้งว่า
“ฉันมีค่าสำหรับตัวฉันมากที่สุด”
และเธอคนนี้ก็คือ “คุณหมิว ปวีรชา หนูจ้อย”
โปรดิวเซอร์บริษัทโฆษณาที่มีทัศนคติที่ดี ที่ทำให้เรามองเห็นถึงพลังงานบวกที่อยู่ภายในของตัวเธอจนเราอิ่มเอมใจหลังจากจบบทสนทนา
สำหรับ “หมิว” การพอใจและเห็นคุณค่าของตนเองไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นเอง แต่เป็นเรื่องที่ต้องใช้ความพยายามในการเรียนรู้ นำมาสู่การปรับทัศนคติ สร้างวิธีคิดและมุมมองเพื่อความภาคภูมิใจในตัวเอง ด้วยกฎความสุข 3 ข้อ คือ รู้จักและยอมรับตัวเอง ไม่ทำร้ายตนเองรวมถึงคนรอบข้าง และไม่ทำร้ายสังคม
#รู้จักและยอมรับตัวเอง คือกฎข้อที่หนึ่ง
ถ้าตามพิมพ์นิยมของหญิงไทยที่หลายคนให้คำจำกัดความว่าสวยหมายถึง รูปร่างผอม หุ่นดี ผิวขาว หน้าหมวย หมิวคงไม่ได้ถูกจัดอยู่ในพิมพ์นิยมนั้น เพราะหมิวไม่ใช่ ”พิมพ์นิยม” แต่เป็น “พิมพ์ตัวเอง” แบบพิมพ์อันสวยงามที่เธอสรรค์สร้างขึ้นมาด้วยความภูมิใจในทุกส่วนของร่างกาย แบบพิมพ์ที่เธอสามารถยิ้มกับภาพสะท้อนในกระจกของเธอเองได้ทุกวัน ว่านี่คือ “ตัวฉัน .. สิ่งมหัศจรรย์หนึ่งเดียวที่สวยที่สุด
“ความสุขของเรานะมันเริ่มต้นจากที่เรายอมรับตัวเองก่อน หมายถึงยอมรับสิ่งที่ตัวเองเป็นนี่แหละ แต่ก่อนตอนเด็กเราอาจไม่มีภูมิคุ้มกันในเรื่องนี้ ปัจจัยภายนอกมันทำให้เราต้องเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นตลอดเวลา แต่เมื่อเราเปรียบเทียบมันไม่มีวันพอหรอก คือเมื่อไหร่จะดีอย่างเขา จะสวยอย่างเขา จะแฮปปี้อย่างเขา มันไม่มีวันจบอ่ะ เพราะฉะนั้นมันต้องหยุดแล้วอยู่กับตัวเอง เพราะทุกคนมันไม่มีวันเหมือนกันหรือเท่ากัน เงื่อนไของเราในวันนี้มันทำให้เราต้องเป็นแบบนี้ มันก็โอเคนะ เราพอใจแล้วจริงๆ”
#ไม่ทำร้ายตัวเองและคนรอบข้าง คือกฎข้อที่สอง
“ล้อเลียน” คือสิ่งที่หลายคนเคยพบเจอ แต่คำคำนี้จะไม่มีอิทธิพลกับเราได้เลย หากเราไม่เก็บเรื่องราวเหล่านั้นมาทำให้ตัวเองเจ็บปวด การล้อเลียนสำหรับคุณหมิวก็เช่นเดียวกัน ไม่ใช่ความแข็งแกร่งของเธอในวันนี้จะเกิดขึ้นได้เอง แต่มันได้ผ่านจุดเลวร้ายนั้นมาทั้งหมด เธอเคยถูกล้อเลียนตั้งแต่ในวัยเด็ก ตอนนั้นเธอยังไม่มีภูมิคุ้มกัน แต่ในวันนี้เธอพูดกับเราได้อย่างเด็ดขาดเลยว่า “การนำคำล้อเลียนมาเป็นความเสียใจเท่ากับเป็นการทำร้ายตัวเองโดยปราศจากการปกป้อง”
“เอาจริงๆเวลามีคนมาล้อเรา แล้วเราเสียใจ มันเหมือนเราไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพตัวเองอ่ะ เวลาเขาล้อเลียนทุกคนรู้สึกขำ แต่เรารู้สึกว่าไม่มีใครอยากเป็นตัวตลกในสายตาคนอื่นหรอก เพราะฉะนั้นจงลุกขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเอง เราพูดได้นะว่าเราไม่ชอบคำพูดแบบนั้น เพราะถ้าเราไม่ทำมันจะใจร้ายกับตัวเองมากเลยแหละ เราจะทนทำไมในเมื่อใจข้างในเราทนไม่ไหวแล้ว และเมื่อเราพูดเขาเองก็จะรู้ว่ามันไม่ดี มันก็ได้ทั้งคู่”
และเมื่อไหร่ก็ตามที่เราคัดกรองทัศนคติลบออกไปจากเราได้ วันนั้นเราจะมีแต่ทัศนคติที่ดีต่อตัวเอง และสิ่งนี้แหละที่จะส่งต่อไปยังคนรอบข้างโดยที่บางทีเราเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ
ถ้าวันนี้เรามองร่างกายตัวเองให้เป็น “บ้าน” หนึ่งหลัง จิตใจและสมองเราเป็น ”เจ้าของบ้าน” หลังนี้ .. รู้ใช่ไหมว่าเจ้าของบ้าน สามารถเลือกปิดประตู เปิดหน้าต่าง และเลือกแขกที่จะมาเยือนบ้านหลังนี้ได้นะ … อะไรที่เป็นสิ่งดีกับตัวเองจงรับเข้ามา อะไรที่ไม่ดีจงปิดให้ผ่านพ้นไป แล้วมองที่บ้านของตัวเองว่ามันสวยแค่ไหน เพราะสายตาคู่เดียวที่จะมองให้บ้านหลังนี้สวยได้ไม่ได้มาจากใคร หากแต่เป็นสมองและหัวใจของตัวเอง
และเราเชื่อว่าบ้านหลังของทุกคนนี้จะไม่มีคะแนนเต็ม แต่คะแนนจะมากขึ้นเรื่อยตราบที่เรายอมรับ เคารพ และภูมิใจในบ้านหลังนี้ของตัวเอง
ขอบคุณ Yelo House ที่เอื้อเฟื้อสถานที่มุมสวยๆให้เราได้ถ่ายรูป
#RespectYourself #Human #Think #Neighbors