Neighbors and friends

Cream Bangkok

คุณคิดว่า “เด็ก” มีความสุขที่สุดตอนไหน สำหรับเรา “เด็ก” อาจจะมีความสุขที่สุดตอนที่พวกเขาได้เป็นตัวเองมากที่สุดก็ได้


เพราะ “เด็ก” ก็คือ “เด็ก” และเพราะความเป็นเด็กนี่เองที่ทำให้การกระทำบางอย่างของพวกเขาเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่อย่างเราคาดไม่ถึง และนั่นคือสิ่งที่เราเรียกว่า “ความมหัศจรรย์”


และวันนี้เรากำลังจะพาทุกคนไปพบความมหัศจรรย์ของสถานที่แห่งหนึ่ง ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเหล่าเด็กๆ ที่แห่งนี้คือโรงแรมซึ่งตั้งอยู่แถวถนนบรมราชนนี โรงแรมที่บอกตัวเองว่า เป็นโรงแรมมหัศจรรย์ โดยมีเจ้าของโรงแรมชื่อ “คุณครูใบปอ อ้อมขวัญ เวชยชัย”


ครูใบปอคนนี้ คือ คุณครูที่กำลังนำเอาความหัศจรรย์ที่ตัวเองเคยได้รับในวัยเด็ก มาส่งต่อให้เกิดความมหัศจรรย์ใหม่ให้เด็กทุกคน โดยการให้เด็กคิดอะไรก็ได้ เขียนอะไรก็ได้ หรืออยากเล่าเรื่องยาวแค่ไหนก็ได้ เพราะเธอเชื่อว่า “ไม่มีความมหัศจรรย์ใดที่พิเศษไปกว่าตัวตนของเด็กๆที่ได้ปล่อยออกมาอย่างอิสระ”


และเธอได้เลือก “โรงแรม” ให้เป็นพื้นที่ปล่อยของของเด็กๆเหล่านั้น

โรงแรมที่ว่านี้มีชื่อว่า “CREAM BANGKOK” ถ้ามองจากภายนอกจะดูเหมือนเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น แต่เมื่อเข้ามาภายในที่นี่ก็ไม่ต่างอะไรจากโรงแรมทั่วไปเลย แต่แค่ไม่สามารถรองรับแขกจริงๆได้ เพราะที่นี่สร้างขึ้นมาเพื่อ “เด็ก” เท่านั้น และความมหัศจรรรย์ของเรื่องราวทั้งหมดก็เริ่มต้นขึ้นที่ “จุดเช็กอิน”

จุดเช็กอิน สำหรับผู้ใหญ่อย่างเราคงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะเวลาไปพักโรงแรมต่างๆนี่คือส่วนแรกของการติดต่อ แต่สำหรับเด็กๆอาจจะดูไกลเกินไป แต่สำหรับครูใบปอ เธอกลับเชื่อว่าการเช็กอินเป็นการจำลองสถานการณ์ให้เด็กได้เตรียมพร้อมจินตนาการที่ดีมากวิธีหนึ่ง

เมื่อมาถึงเราให้เด็กเช็กอินก่อน เหมือนเตรียมจินตนาการ เราจะมีคำถามให้เขียนว่า ชื่ออะไร หรือถ้าเปิดประตูมิติได้จะไปที่ไหน มันเป็นการดึงเรื่องเล่าแรกของเค้าออกมา ไม่ต้องสร้างสรรค์ที่สุดก็ได้ แต่เป็นเรื่องที่เค้าอยากเล่าจริงๆ เพราะเราอยากบอกเค้าว่าที่นี่หนูจะเป็นอะไรก็ได้นะ มีคนที่อยากฟังพวกเค้าอยู่ กระบวนการนี้จึงเป็นกระบวนการแรกที่ทำให้เค้าเตรียมตัว และทำให้รู้ว่าต่อจากนี้ไปเค้าต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองในนี้นะ การเรียนรู้ของเค้าเป็นของเค้า เค้าจะเลือกอะไรก็ได้ อุปกรณ์ชิ้นไหนก็ได้ เป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ไม่ใช่การเรียนรู้ของพ่อแม่หรือคุณครูที่จะไปบอกว่าเค้าต้องทำอะไร

 

แค่จุดเช็กอินจุดเดียว ก็ทำให้เรารู้สึกว่าที่นี่เริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น เราจึงถามต่อไปว่า แล้วทำไมถึงต้องให้ที่นี่เป็น “โรงแรม”

ครูใบปอเล่าให้ฟังถึงแรงบันดาลใจก่อนสร้างโรงแรมแห่งนี้ว่า เธอได้ประสบการณ์ที่ดีมากจากการไปฝึกงานที่ “100 Stories Building” ศูนย์การเขียนเชิงสร้างสรรค์ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งที่นี่เป็นอาคารชั้นเดียว ไม่มีทางจะเป็นอาคารร้อยชั้นตามชื่อได้เลย แต่มันมีประตูลับที่พื้น ที่ทุกคนสามารถลงไปอีก 99 ชั้นใต้ดินได้ มันคือการใช้จินตนาการดึงเรื่องราวออกมาผ่านพื้นที่ ผ่านเรื่องเล่า ครูใบปอจึงรู้สึกว่าที่นี่มหัศจรรย์มาก และอยากทำที่แบบนี้ให้เกิดขึ้นเองบ้าง มันจึงกลายเป็น “โรงแรมแห่งนี้”

 

เพราะโรงแรมเป็นสถานที่ที่มีคาแรกเตอร์ของการถ่ายทอดเรื่องราวที่ชัดเจน เรื่องราวหนึ่งเรื่องก็ต้องมีตัวละคร มีฉาก มีเหตุการณ์ ซึ่งโรงแรมเป็นได้หมดเลย ตัวละครเหรอ คุณอยากเป็นอะไรล่ะ นักเดินทาง นักผจญภัย อยากไปที่ไหน ชั้นต่างๆ ห้องต่างๆ ก็เป็นฉากที่สามารถผูกเป็นเรื่องในตัวเองได้หมด และถึงในความเป็นจริงโรงแรมกับเด็กอาจดูไกลตัว แต่ข้อดีก็คือเด็กจะตื่นเต้น เพราะเค้าได้ทำทุกอย่างเหมือนที่ผู้ใหญ่ทำได้เลย นี่คือความพิเศษ

ดังนั้น Cream Bangkok จึงเป็นโรงแรมที่ดีไซน์พื้นที่เปิดกว้าง มีอิสระ โล่งสบาย มีลมธรรมชาติพัดเข้ามา เพื่อให้เด็กได้ปล่ยจินตนาการเต็มที่ มีโซนล็อบบี้สำหรับพักผ่อน โซนวิร์กชิอปสำหรับกิจกรรม และโซนห้องสมุด นิทรรศการ เพื่อรับความรู้ต่างๆ และที่สำคำคัญที่นี่ไม่ได้มีแค่ 3 ชั้นอย่างที่ตาเราเห็น แต่มีอีกเป็นร้อยๆชั้น เพราะที่นี่มี “ประตูมิติ” ที่แล้วแต่ใครจะได้สัมผัสมัน

 

ดังนั้นถ้าใครมองที่นี่เป็นโรงเรียนสอนพิเศษก็คงไม่ใช่ แต่เป็นแค่สถานเรียนรู้นอกห้องเรียน ที่มีครูใบปอเป็นครูใหญ่ และมีหัวใจหลักของการเรียนรู้อยู่ที่ การเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์ผ่านการถ่ายทอดทางการเขียนและการอ่านเพราะเธอเชื่อว่า นื่คือพื้นฐานที่ดีที่สุดของเด็กทุกคนที่ควรจะมี

แล้วการเรียนรู้ของที่นี่เป็นอย่างไร ? ลองนึกกันเล่นๆว่า ถ้าให้เล่าเรื่อง “ไดโนเสาร์” สำหรับเราที่เป็นผู้ใหญ่ทุกคนจะเห็นภาพอะไร ก็คงเห็นเป็นสัตว์ตัวใหญ่ที่มีชื่อเรียกยากๆตามหนังสือวิทยาศาสตร์ หรือหนังสารคดี แต่ถ้าเราให้เด็ก 10 คนเล่าเรื่องไดโนเสาร์ เชื่อเถอะว่าคุณจะมหัศจรรย์ใจมาก เพราะคุณจะเจอไดโนเสาร์สิบแบบที่ไม่เหมือนกันเลยซักตัว และทุกตัวจะอยู่เหนือจินตนาการคุณแน่นอน  .. และนี่แหละคือหัวใจของการเรียนรู้ของที่นี่ ถ่ายทอดทุกอย่างผ่านการเขียน อ่าน เล่าเรื่องได้อย่างอิสระและไร้รูปแบบ

 

การเขียนมันเป็นหนึ่งวิธีถ่ายทอดความคิดออกมาเนอะ เราให้เด็กได้ถ่ายทอดเต็มที่ ให้สนุกกับมัน บางทีเราให้เค้าคิดแล้วก็พูดๆเลย เดี๋ยวเราช่วยเค้าจดเอง เพราะความคิดเค้ากำลังไหล ถ้าสังเกตที่นี่จะเต็มไปด้วยงานเขียนที่ไม่สมบูรณ์ทั้งนั้น บางคำก็สะกดผิด แต่เราไม่โฟกัสเรื่องนั้น เราเล่นกับหัวใจ เล่นกับความรักที่จะเขียน เพราะนั่นคือหัวใจเราเหมือนกัน

และถ้าวันนี้เด็กๆทุกคนรักการเขียน การอ่าน การคิด เชื่อเถอะว่าในอนาคตสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นพื้นฐานของพวกเขา พวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียน แต่สิ่งเหล่านี้มันจะซึมซับและพัฒนาเป็นกระบวนการคิดที่ดี เพราะทุกความคิดไม่ว่ามันจะผ่านการถ่ายทอดมาอย่างไร มันคือสิ่งที่มีคุณค่าทั้งสิ้น

“การเขียนมันเป็นหนึ่งวิธีถ่ายทอดความคิดออกมาเนอะ เราให้เด็กได้ถ่ายทอดเต็มที่ ให้สนุกกับมัน บางทีเราให้เค้าคิดแล้วก็พูดๆเลย เดี๋ยวเราช่วยเค้าจดเอง เพราะความคิดเค้ากำลังไหล ถ้าสังเกตที่นี่จะเต็มไปด้วยงานเขียนที่ไม่สมบูรณ์ทั้งนั้น บางคำก็สะกดผิด แต่เราไม่โฟกัสเรื่องนั้น เราเล่นกับหัวใจ เล่นกับความรักที่จะเขียน เพราะนั่นคือหัวใจเราเหมือนกัน”

 

และท้ายที่สุดความตั้งใจของครูใบปอ คืออยากให้การเขียน การอ่าน การคิด เป็นพื้นฐานของเด็กทุกคน ในอนาคตพวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียน แต่สิ่งเหล่านี้มันจะซึมซับและพัฒนาเป็นกระบวนการคิดที่ดี เพราะทุกความคิดไม่ว่ามันจะผ่านการถ่ายทอดมาอย่างไร มันคือสิ่งที่มีคุณค่าทั้งสิ้น

และถ้าวันนี้เด็กๆทุกคนรักการเขียน การอ่าน การคิด เชื่อเถอะว่าในอนาคตสิ่งเหล่านี้มันจะเป็นพื้นฐานของพวกเขา พวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นนักเขียน แต่สิ่งเหล่านี้มันจะซึมซับและพัฒนาเป็นกระบวนการคิดที่ดี เพราะทุกความคิดไม่ว่ามันจะผ่านการถ่ายทอดมาอย่างไร มันคือสิ่งที่มีคุณค่าทั้งสิ้น

และการที่วันนี้ครูใบปอเลือกเป็นคนหนึ่งที่ทำงานกับเด็กน้อยๆเหล่านี้ ทำให้เราได้รู้สึกหนึ่งอย่างว่า “การสอนที่ดีที่สุด คือ การไม่สอนไม่สั่ง” วันนี้หลายคนเรียกเธอว่า “ครูใบปอ” เพราะเธอเคยเป็นครูที่โรงเรียนทางเลือกแห่งหนึ่ง แต่วันนี้ความเป็นครูของเธอไม่ใช่ผู้สอน แต่เป็นผู้นำทาง ผู้แนะนำ และผู้ร่วมทดลองไปกับเด็กให้สามารถเจอเรื่องราวมหัศจรรย์ที่ตัวเองสามารถสร้างขึ้นมาได้

ครั้งหนึ่งเราเคยเป็นเด็ก ความสุขของเรามากที่สุดคือการได้เป็นตัวเอง คิดเอง เล่นเอง ดังนั้นเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ ก็อย่าเอาความคิดของผู้ใหญ่ไปใส่ให้เด็กโดยไม่เคยถามพวกเขาสักคำว่าเคยต้องการมันหรือไม่เลย จงมองเด็กด้วยความเคยเป็นเด็กในตัวคุณ แล้วคุณจะเห็นความ ”มหัศจรรย์” ที่มากมายเหลือเกินในตัวพวกเขา

เพราะ “เด็ก” คือสิ่งที่มหัศจรรย์ที่สุด
โรงแรมแห่งนี้จึงเกิดขึ้น